top of page
mahastainless

สแตนเลสสีเกรดตกแต่ง มีกี่เกรด ข้อดี ข้อจำกัด และคุณสมบัติที่ควรรู้

สแตนเลสสีเกรดตกแต่ง เป็นวัสดุที่กำลังได้รับความนิยมในงานตกแต่งสถาปัตยกรรมและงานออกแบบภายใน เพราะมีความทนทาน ความเงางาม และยังเพิ่มความสวยงามให้กับงานตกแต่งได้หลากหลายสไตล์ อย่างไรก็ตาม การเลือกใช้สแตนเลสสีจำเป็นต้องคำนึงถึงประเภทของเกรดที่เหมาะสมกับลักษณะงาน เพื่อให้ใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และคุ้มค่ากับต้นทุน


บทความนี้จะพาคุณไปรู้จักกับสแตนเลสสีเกรดตกแต่งว่ามีกี่เกรด แต่ละเกรดมีข้อดี ข้อจำกัด และคุณสมบัติอย่างไร พร้อมแนะนำวิธีเลือกใช้ให้เหมาะสมกับงานของคุณ


สแตนเลสสีเกรดตกแต่งมีกี่เกรด ?

โดยทั่วไป สแตนเลสสีที่ใช้ในงานตกแต่งจะแบ่งออกเป็น 3 เกรดหลัก ได้แก่ เกรด 304, เกรด 316 และเกรด 201 ซึ่งแต่ละเกรดมีส่วนผสมและคุณสมบัติที่แตกต่างกัน โดยสามารถสรุปรายละเอียดของแต่ละเกรดได้ดังนี้


  1. เกรด 304 (AISI 304)

คุณสมบัติ


  • เป็นเกรดยอดนิยมที่มีความสมดุลระหว่างความทนทานและราคา

  • ทนต่อการกัดกร่อนในสภาพแวดล้อมทั่วไป เช่น สภาพอากาศภายนอก

  • มีความมันวาวสูงและเนื้อผิวที่เรียบเนียน

  • เหมาะสำหรับใช้งานทั้งภายในและภายนอก เช่น ผนังตกแต่ง, เฟอร์นิเจอร์, โครงสร้างในอาคาร

ข้อดี

  • ราคาไม่สูงจนเกินไปเมื่อเทียบกับเกรด 316

  • เหมาะกับการใช้งานหลากหลาย

ข้อจำกัด

  • ไม่ทนต่อสารเคมีรุนแรงหรือสภาพแวดล้อมที่มีความเค็มสูง เช่น พื้นที่ใกล้ทะเล


  1. เกรด 316 (AISI 316)

คุณสมบัติ

  • มีราคาถูกที่สุดในบรรดาเกรดตกแต่ง

  • ทนต่อการกัดกร่อนในระดับปานกลาง

  • ใช้สำหรับงานตกแต่งภายในที่ไม่ได้รับความชื้นหรือสารเคมี

ข้อดี

  • เหมาะกับงานที่ต้องการลดต้นทุน

  • มีความเงางามใกล้เคียงกับเกรด 304

ข้อจำกัด

  • ความทนทานน้อยกว่าเกรด 304 และ 316

  • ไม่เหมาะกับงานภายนอกหรือพื้นที่ที่มีความชื้น


  1. เกรด 201 (AISI 201)

คุณสมบัติ

  • มีราคาถูกที่สุดในบรรดาเกรดตกแต่ง

  • ทนต่อการกัดกร่อนในระดับปานกลาง

  • ใช้สำหรับงานตกแต่งภายในที่ไม่ได้รับความชื้นหรือสารเคมี

ข้อดี

  • เหมาะกับงานที่ต้องการลดต้นทุน

  • มีความเงางามใกล้เคียงกับเกรด 304

ข้อจำกัด

  • ความทนทานน้อยกว่าเกรด 304 และ 316

  • ไม่เหมาะกับงานภายนอกหรือพื้นที่ที่มีความชื้น


ข้อดีของสแตนเลสสีเกรดตกแต่ง

  1. ความทนทานสูง

    • สแตนเลสสีมีอายุการใช้งานยาวนาน ทนต่อการกัดกร่อน และไม่เป็นสนิมง่าย

  2. ความสวยงาม

    • มีสีสันและพื้นผิวที่หลากหลาย เช่น สีทอง, โรสโกลด์, สีดำ ทำให้นำไปใช้ได้ในงานออกแบบที่หลากหลาย

  3. ความปลอดภัยต่อสุขภาพ

    • วัสดุสแตนเลสเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและไม่มีสารเคมีอันตราย

  4. การดูแลรักษาง่าย

    • ทำความสะอาดง่าย เพียงเช็ดด้วยผ้าชุบน้ำหรือใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดสแตนเลส

  5. ความยืดหยุ่นในการใช้งาน

    • สามารถนำไปใช้ได้ทั้งในงานโครงสร้าง, งานตกแต่ง, หรือเฟอร์นิเจอร์


ข้อจำกัดของสแตนเลสสีเกรดตกแต่ง

  1. ต้นทุนที่แตกต่างตามเกรด

    • สแตนเลสเกรด 316 มีราคาสูงกว่า 304 และ 201 ทำให้ต้องเลือกเกรดที่เหมาะสมเพื่อไม่ให้ต้นทุนสูงเกินความจำเป็น

  2. การเคลือบสีอาจหลุดลอก

    • หากกระบวนการเคลือบสีไม่ได้คุณภาพ สีอาจหลุดลอกได้ในระยะยาว โดยเฉพาะในสภาพแวดล้อมที่มีการเสียดสีหรือรอยขีดข่วน

  3. ไม่เหมาะกับทุกสภาพแวดล้อม

    • สแตนเลสเกรด 201 ไม่เหมาะสำหรับใช้งานภายนอกหรือในพื้นที่ที่มีความชื้นสูง

  4. การขึ้นรูปในงานซับซ้อน

    • บางเกรด เช่น 316 อาจขึ้นรูปได้ยากกว่าเกรด 304


สแตนเลสสีเกรดตกแต่งเป็นวัสดุที่ตอบโจทย์งานตกแต่งในหลากหลายรูปแบบ โดยการเลือกเกรดที่เหมาะสมจะช่วยเพิ่มความสวยงาม ความคุ้มค่า และยืดอายุการใช้งานของงานออกแบบ ไม่ว่าคุณจะเลือกใช้เกรด 304, 316 หรือ 201 สิ่งสำคัญคือการพิจารณาลักษณะงานและงบประมาณเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

หากคุณกำลังมองหาสแตนเลสสีสำหรับตกแต่ง ควรเลือกผู้จัดจำหน่ายที่มีความน่าเชื่อถือและให้คำปรึกษาเกี่ยวกับเกรดและการใช้งานอย่างเหมาะสม เพื่อให้งานของคุณออกมาสวยงามและทนทานในระยะยาว

1 view0 comments

Comments


bottom of page